ดูหนัง the endless ภาพยนตร์ตื่นเต้นที่ชักชวนให้คิดนี้ติดตามสองลูกพี่ลูกน้องที่ได้รับใจความวิดีโอที่เป็นความลับซึ่งสร้างแรงผลักดันให้พวกเขากลับมาเยี่ยมชมลัทธิการถึงแก่กรรมของจานบินที่พวกเขาหลบซ่อนเมื่อทศวรรษก่อน ด้วยความมุ่งมาดที่จะพบเจอจุดจบที่พวกเขาทำไม่ได้ในฐานะเด็กหนุ่มพวกเขาถูกบังคับให้พิเคราะห์ความเชื่อถือของลัทธิใหม่เมื่อจำเป็นต้องพบเจอกับการเกิดที่ชี้แจงมิได้รอบค่าย
ตอนที่สมาชิกจัดแจงรับเหตุลึกลับที่กำลังจะออกเดินทางมาถึงญาติพี่น้องต่างก็แข่งกันเพื่อคลี่คลายเรื่องจริงที่ดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้ก่อนที่จะชีวิตของพวกเขาจะข้องแวะกับลัทธิอย่างคงทน เอก เอี่ยมชื่น ผู้เขียนบท เลือกที่จะให้ตัวละครของหนังเป็นตัวเดินเรื่องแบบกึ่ง ๆ Road Movie ที่มีบรรยากาศและองค์ประกอบย้อนยุคครอบคลุมอยู่ และปล่อยให้ตัวละครเดินเรื่องและพบกับ Conflict ไปเรื่อย ๆ
ผ่านบรรยากาศและองค์ประกอบ ดูหนัง the endless โดยมีเส้นเรื่องเกาะเกี่ยวไว้แบบบาง ๆ เพราะเหตุว่าตัวหนังแอบหยอดแล้วก็แทรกสอดสิ่งเล็กสิ่งน้อย ที่เป็นการแสดงความยำเกรงภาพยนตร์ไทยสมัยนั้นเอาไว้เยอะไปหมด และการพบเจอกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสมัย 16 มิลลิเมตร
ตั้งแต่การเรียกร้องหาความเหมือนจริงในหนังเยอะขึ้น การเข้ามาของสื่อโทรทัศน์ที่ส่งผลต่อธุรกิจขายยา รวมถึงการตายทันควันของ มิตร ชัยสั่งการ ที่เปรียบเทียบกับการจบของเสาหลักของแวดวงภาพยนตร์ไทย ทั้งยังในมุมของผู้ชม และก็คนทำงานตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีหนังสือเล่มไหนเขียนถึง (และคงจะมีอีกเยอะแยะที่ไม่มีผู้ใดกล่าวถึงเช่นเดียวกัน)
ดูหนัง the endless (2018) จุดเริ่มต้น
พี่น้องสองคนได้รับสาระสำคัญวิดีโอที่เป็นความลับซึ่งกระตุ้นให้พวกเขากลับไปเยี่ยมมองลัทธิ UFO Death ที่พวกเขาแอบเมื่อสิบปีก่อน ด้วยหวังว่าจะพบจุดจบที่พวกเขาไม่สามารถที่จะหาได้ในตอนเป็นชายหนุ่ม พวกเขาถูกบังคับให้ควรต้องตรึกตรองความเชื่อถือของลัทธิอีกครั้งเมื่อจำเป็นต้องพบเห็นกับการเกิดที่อธิบายไม่ได้รอบๆค่าย ระหว่างที่สมาชิกเตรียมตัวรับสถานะการณ์ลึกลับที่กำลังจะมาถึง
เครือญาติเร่งมือเพื่อชี้แจงจริงที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ก่อนจะชีวิตของพวกเขาควรต้องเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับลัทธิอย่างยั่งยืนเรื่องราวของ ‘มนต์รักนักบรรยาย’ เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2513 หน่วยเร่ขายยาหน่วยที่ 18 ของบริษัทยายารักษาโรคเทวดา ที่ประกอบไปด้วย มานิตย์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าและก็นักบรรยายประจำหน่วย, ไอ้เก่า (จิรายุ ละอองมณี) พ่อหนุ่มบุคลากรดูแลเครื่องฉายภาพ
รวมทั้ง คุณลุงสุนัขน (สามารถ พยัคฆินทร์ย่ำรุ่ง) คนขับ จนตราบเท่าพวกเขาได้พบกับ เรืองพระจันทร์ (หนึ่งบุตรี งาม) หญิงสาวหัวก้าวหน้าผู้ต้องการมีอนาคต มาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของหน่วย พวกเขาทั้งยัง 4 คนจำเป็นต้องออกตรวจตราฉายหนัง พากย์กลางแปลง แล้วก็ขายยา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เบาๆคืบคลานเข้ามาเปลี่ยนอาชีพของพวกเขา
ในด้านหนึ่ง การจับเอาการราวของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในตอนปี 2513 ถือได้ว่าอะไรที่เด่นไม่น้อย ด้วยเหตุว่าเกือบจะไม่มีภาพยนตร์ไทยที่เคยเอ๋ยถึงแวดวงหนังในยุคนี้มาก่อน เซียนสอนเล่น แม้กระนั้นในอีกทางหนึ่งมันก็เกิดเรื่องยากที่จะทำให้เรื่องราวที่เลยสมัยไปแล้วมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งกว่าเป็นเพียงแค่สารคดีเฉยๆตัวหนังให้น้ำหนักกับการผลิตมวลบรรยากาศของภาพยนตร์ไทย ที่คนชอบดูหนังไทย คนทำหนัง รวมทั้งนักดูหนังคงจะถูกใจขอรับ
รีวิว
หากคุณมีไอเดียที่ดี มีนักแสดงที่เข้มแข็ง มีสคริปต์ที่ชาญฉลาด แล้วก็มีส่วนสำหรับเพื่อการดูแลภาพยนตร์ คุณไม่ต้องใช้เงินเยอะมากเพื่อสร้างภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจ “ไม่จบไม่สิ้น” เป็นหลักฐาน ควบคุมดูแลโดยกรุ๊ปสร้างภาพยนตร์ของจัสติน เบนสันรวมทั้งแอรอน มัวร์เฮด ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเมตาสยองขวัญแบบมีสมอง
และผู้ที่แสดงเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ตกลงปลงใจกลับไปเยี่ยมมองลัทธิยูเอฟโอที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา นี่เป็นภาพยนตร์ที่เล่นกับการรับรู้ของเราเกี่ยวกับเวลา อวกาศ รวมถึงความจริง แล้วก็ร่างเค้าโครงของความสยองขวัญที่ไม่อาจจินตนาการได้ ขณะที่ทิ้งรายละเอียดไว้ตามจินตนาการของเรา
เหมือนกันกับดาราภาพยนตร์ส่วนใหญ่ เบ็นสันแล้วหลังจากนั้นก็มัวร์เฮดเล่นเป็นตัวละครที่ใช้ชื่อจริงของนักแสดงร่วมกัน ซึ่งเป็นความรักที่ผลิตมาจากภาพยนตร์อินดี้ธรรมดาที่ไม่ต้องเลิกขนคิ้วถ้าเกิดนี่เป็นละคร แม้กระนั้นโน่นเพิ่มความแปลกประหลาดเข้าไปอีกชั้นเยี่ยมใน ภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ จัสตินเป็นพี่ชาย แอรอนเป็นน้อง พวกเขาเติบโตขึ้นมาในบริเวณป่าบนเนินแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ (ภาพยนตร์ถ่ายทำใกล้กับซานดิเอโก)
เรื่องราวเริ่มด้วยจัสตินแล้วก็แอรอนดำเนินชีวิตนิรนามในฐานะคนเมืองธรรมดา ฉากเปิดเผยให้ลงความเห็นว่าจัสติน “ช่วย” แอรอนแล้วหลังจากนั้นก็พาทั้งคู่ออกมาจากลัทธิ แล้ว Aaron ดูวิดีโอเทปสาระสำคัญจาก Anna ของ Callie Hernandez ซึ่งกาลครั้งหนึ่งเคยเป็นพวกลัทธิ
รวมทั้งตั้งใจว่าเขาคิดถึงสถานที่นั้นถ้าว่าเขาจะรู้ดีว่ามันไม่ดีสำหรับเขาก็ตาม เขาบอกจัสตินว่าเขาต้องการกลับไปเพื่อ “ปิด” จัสตินรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ไม่ดี แม้กระนั้นก็ตกลงเนื่องจากว่ารักพี่ชายของเขา แล้วหลังจากนั้นก็เนื่องจากลึกๆแล้วเขาก็คิดถึงมันด้วยเหมือนกัน
สิ่งต่างๆเริ่มพิศดารก่อนจะพี่น้องจะไปถึงบริเวณนั้นเสียด้วยซ้ำ ดูหนัง the endless ต้องขอบพระคุณบรรยากาศที่ความเร้นลับและอันตรายที่เกิดจากการออกแบบเสียงอันฉลาดปราดเปรื่องโน้ตสังเคราะห์ (โดย James Lavelle) ที่ยกตัวอย่าง “House of the Rising Sun” และก็กระตุ้นสิ่งที่ดีที่สุดของ John Carpenter; และภาพที่อธิบายไม่ได้ซึ่งเกิดขึ้นอีก เรื่องราวนี้เต็มไปด้วยวงกลมและก็วงกลมภายในวงกลม หรือบางครั้งเราควรเรียกมันว่า “จานสำหรับรองทรง” มีท้องฟ้ามืดครึ้มและจากนั้นก็มีก้อนเมฆเจาะเป็นรู
กระดิ่งลมกลมกระทบกันในสายลม ม้านั่งไม้ที่จัดไว้รอบกองไฟ วงกลมฝังอยู่ในโน้ต: “House of the Rising Sun” สร้างมาจากแบบคอร์ดวงกลมแบบต่างๆและก็เนื้อเพลงเกี่ยวกับลูกชายของนักพนันที่หนีจากวัยเด็กที่ถูกทารุณบาป หากแม้ดูราวกับว่าตั้งอกตั้งใจที่จะทำกรรมของพ่อซ้ำโดยเลือก กระจกก็สำคัญเช่นกัน ในภาพยนตร์มีกระจกสะท้อนอยู่จริง องค์ประกอบภาพสะท้อน
นักแสดงที่โชคชะตาหรือบุคลิกภาพดูเหมือนกับว่าสะท้อนกันและกัน และในตอนที่จักรวาลดูเหมือนจะฉีกช่องโหว่ในตัวมันเองรวมทั้งแสดงให้เราแลเห็นสิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งสิ่งต่างๆปราศจากความจริงที่พินิจพิจารณาได้ทางวิทยาศาสตร์ เราไปสู่ทำเลสยองขวัญของภาพยนตร์สยองขวัญที่ทำให้เราสงสัยสำหรับเพื่อการทราบของเรา มีขณะรวมทั้งภาพแปลกๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว
ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเขวี้ยงทิ้งไป ซึ่งถ้าคุณเขียนรายการทั้งหมดทั้งปวงโดยไม่มีบริบท ระหว่างที่ฉันกำลังทำอยู่นี้ ดูราวกับว่าสมองของคุณกำลังแยก ซึ่งแน่นอนว่าเปิดโอกาสจุดสำคัญในการเล่าตามที่เบ็นสันแล้วก็มัวร์เฮดบอกไว้: แบบฟอร์มตามหน้าที่นี้ และก็หัวข้อเป็นแถวทางที่ลัทธิล้างสมองรวมทั้งความว้าเหว่รวมกันเพื่อทำลายความรู้ความเข้าใจสำหรับในการแบ่งประเภทและชนิดจินตนาการจากเรื่องจริง
ศิลปินเริ่มเดินทางในระยะทางต่างๆ(ตั้งแต่หลายร้อยไมล์ไปจนตราบเท่าไม่กี่ฟุต) เพื่อจบลงที่จุดเริ่มแรกเท่านั้น บางคราวพวกเขามีประสบการณ์และประสบการณ์ซ้ำกับเรื่องราวเดิมจากมุมเดิมหรือมุมที่แตกต่างกันเล็กน้อย พวกเขามีเป้าหมายเสรีไหม หรือลัทธิทำให้ภาวการณ์จิตใจของพวกเขากลายเป็นภาพลวงตาเปรียบเสมือนอาทิเช่นภาพแปลกๆที่พวกเขาพบรอบๆค่าย? พวกเขาสร้างวิถีทางหรือสร้างจังหวะให้พวกเขา?
ลัทธินี้พึงพอใจที่ไม่มีหัวหน้า แต่จริงหรือ?
ทิม (ลิว เทมเพิล) เป็นคนเงียบๆ ผู้มีหนวดเคราสีแดงเป็นพวง ผมสีแดงยาว ใบหน้าเป็นเหลี่ยม แล้วก็มีท่วงท่าที่มีอำนาจเหมือนหัวหน้าเผ่า ภาพเขายืนอยู่ข้างประตูกระท่อมที่ปิดตายด้วยแม่กุญแจขนาดใหญ่สมัยศตวรรษที่ 19 ไม่มีผู้ใดเคยเข้าไปในนั้น มีคำกล่าวที่ซ้ำจากจำเจเกี่ยวกับการที่นักแสดงบางตัวในภาพยนตร์หัวข้อนี้แก่กว่าแอรอนรวมทั้งจัสตินมากมายก่ายกอง แม้ว่าพวกเขาจะแสดงโดยศิลปินที่อายุเท่ากันหรือน้อยกว่าเล็กน้อยก็ตาม
ฉันกำลังไม่ชัดแจ้งเกี่ยวกับโครงเรื่องเนื่องจากในที่สุดแล้วมันไม่ใช่จุดสนใจหลักของ “The Endless” แล้วก็เพราะว่าประสิทธิภาพของภาพยนตร์จำนวนไม่ใช่น้อยมาจากการเปรียบเทียบสิ่งที่เรากล่าวว่าจะเกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง (หรืออะไร ดูเหมือนจะเกิดขึ้น)
ลวดลายภาพวงกลมรวมทั้งการวางโครงเรื่องแบบวงกลม (หรือเป็นประจำ) ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ที่ตรวจการบาป ความเจริญ ความตั้งอกตั้งใจเสรี รวมทั้งโชคชะตาด้วยการเผชิญหน้ากับนักแสดงของพวกเขาด้วยความท้าทายเดิมๆบ่อยๆ ลองคิดดู “Edge of Tomorrow” “Groundhog Day” และ “ลูป”
ภาพยนตร์หัวข้อนี้ดูเหมือนจะมีฉากก่อนหรือในทันทีทันใดด้านหลังรุ่งสว่างของศตวรรษที่ 21 โดยใคร่ครวญจากเทคโนโลยีวิดีโอแล้วก็โทรศัพท์แบบฝาพับ และการขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เห็นได้ชัด แต่เราไม่สามารถมั่นอกมั่นใจได้ ในขณะที่ภาพยนตร์ก้าวเดินต่อไป เทคโนโลยีเก่าๆก็เริ่มปรากฏขึ้น บางสิ่งบางอย่างก็เปรอะเปื้อนหรือเสียหายกระทั่งเห็นได้ชัด (หรือแยกขาดจากเทคโนโลยีเครื่องใช้ไม้สอยเสริมที่ควรต้อง ดูหนัง the endless ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่หรือสายไฟ)
ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ที่มันจะทำงานได้ แม้ว่าแน่นอนว่ามันใช้งานได้ สื่อถึงเนื้อความที่ดูราวกับว่ามีสาเหตุมาจากกองกำลังที่คิดร้าย กลไพ่ธรรมดาที่จัสตินมองผ่านอย่างใจจดใจจ่อ หลบให้กับอุบายเกี่ยวกับเบสบอล ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้คำอธิบายที่มีเหตุผลจนถึงทำให้ไร้มนุษยธรรม และอย่าไปพูดถึงการเดินทางที่ลูกพี่ลูกน้องใช้เรือพายหรือเหตุลึกลับที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นครั้งใดก็ตามจัสตินออกไปวิ่ง
นักแสดงนำทุกคนเยี่ยมที่สุด สิ่งที่ดีที่สุดน่าจะเป็นมัวร์เฮด เบนสัน; เอร์นานเดซ ; Kira Powell แสดงบทบาทเป็นกุ๊กตาแก้วที่ Shelly Duvall เคยชำนิชำนาญ; และเจมส์ จอร์แดนในบทคนวิปลาสพูดเหลวไหลเช่นเดียวกันกับเดนนิส ฮอปเปอร์ชื่อ Shitty Carl แต่ว่ามันยากที่จะเลือก ทุกคนทุ่มหมดเนื้อหมดตัวนี้
และจากนั้นก็ตอนการแสดงที่ “ยิ่งใหญ่” อย่างโจ่งครุ่มนั้นได้รับการสร้างสมดุลด้วยความเต็มใจความสั้นๆที่ถูกจำนวนมาก ดังเช่น การหยอก รู้จักดี แบบพี่น้องที่จัสตินและแอรอนคุยกัน แล้วก็หนทางที่พาวเวลล์เปลี่ยนแปลงนักแสดงที่ไม่เกิดผลกระทบในทางปฏิบัติ จัสตินบอกคุณว่าโยคีหัวปรุงยาที่คุณพึ่งเล่าให้ฟังไม่ใช่แฟน แต่ “แค่เพียงผู้ชายคนนี้ที่ฉันหลงลืมมากไม่น้อยเลยทีเดียว ในช่วงเวลาที่ฉันใช้ลิเธียม ธอราซีนรวมทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพี”
การสร้างภาพยนตร์ส่วนใหญ่มีความยับยั้งชั่งใจและจากนั้นก็ฉลาดปราดเปรื่องวางกรอบศิลปินอย่างมีแผนสำหรับการ การขยับกล้องถ่ายภาพเพื่อเปิดเผยหรือปกปิดข้อมูล แล้วหลังจากนั้นก็เพิ่มความตึงเครียดด้วยการตัดต่อที่น่าอัศจรรย์ เอฟเฟกต์เสียงที่ไม่สอดคล้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งดนตรีประกอบของ Lavelle
ซึ่งทำให้ฉันไม่สนเท่ห์ใจเลยที่รู้ว่า มันถูกแสดงบนคีย์บอร์ดที่ทำจากปลายประสาทของผู้คนที่หลุดลุ่ย ไม่ใช่ทุกเวลาในภาพยนตร์: ดารานำหักโหมไปหน่อยในตอนเปิดเรื่อง ซึ่งโชคร้ายที่พรีเซ็นท์บทสำหรับพูดที่ห่วยแตก เปิดเผย-ทิ้ง แล้วก็ CGI ก็หลบๆแอบๆซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีความทะเยอทะยานทางศิลปเกินงบประมาณของพวกเขา
แม้กระนั้นช่วงท้ายแล้ว การแนะ นัยยะ และก็ช็อตเอฟเฟ็กต์ที่ทำให้เรื่องราวอยู่เหนือจุดสูงสุด รวมถึงการเน้นไปที่อาการประสาทและความปรารถนาของศิลปิน ในที่สุดสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องกลุ่มนี้ค้นหาเป็นที่ที่เรียกว่าบ้าน ไม่มีความสำคัญสำหรับพวกเขาว่ามันจะเป็นหลักที่ลัทธิที่เต็มไปด้วยผู้ขี้โกง
ทำลายจิตใจ หรือตารางอวกาศ พื้นที่ทรมาทรกรรม หรือสวนสัตว์ (หรือสถานที่นี้) จนกระทั่งพวกเขารู้ทางแล้วก็ถูกล้อม โดยพวกเขาจำใบหน้าได้ ดูหนัง the endless ค่ายเป็นบ้านของพวกเขาในดินแดนอาทิตย์อุทัย สองคนนี้มีเท้าข้างหนึ่งอยู่บนชานชาลาสถานี อีกข้างหนึ่งอยู่บนรถไฟ และพวกเขาก็กลับไปที่บริเวณนั้นเพื่อไกวลูกฟุตบอลและจากนั้นก็โซ่นั้น
