ซีรี่ย์เกาหลี หนังเต็มเรื่อง HD
ซีรี่ย์เกาหลี Watch Extraordinary Attorney Woo อูยองอู ทนายความอัจฉริยะโลกใบนี้มีอะไรที่น่าทึ่งให้พวกเรามองเห็นอีกมากเลยว่าไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกของซีรีส์ประเทศเกาหลี พวกเราเคยได้ทราบจะ Good Doctor ซีรีส์ด้านการแพทย์ของประเทศเกาหลีที่ถูกนำไปสร้างใหม่อีก 2 เวอร์ชัน พวกเราเคยได้เฉือนน้ำตากันมาแล้วกับเรื่องราวของฮันกือรู ใน หนังฟรี Move to Heaven โอกาสนี้ประเทศเกาหลีไม่หยุด ยังไปต่อด้วยการส่งทนายความสาวที่มีลักษณะอาการแอสเพอร์เกอร์ โรคในกรุ๊ปสเปกตรัมเดียวกับออทิสติก มาให้จั๊กจี้หัวใจของพวกเรากันอีก
และก็ที่จำเป็นต้องกล่าวว่าจั๊กจี้เพราะว่าหัวข้อนี้มีอีกทั้งอารมณ์ขันเนียนๆสติไม่ดีเบาๆแล้วก็โศกสลดเมื่อได้สัมผัส …ดราม่าประเด็นนี้มีเรื่องมีราวสนุกสนาน มากมายอย่างยิ่งจริงๆซีรีส์น้ำดีจากช่องเล็กที่เรตติ้งมากขึ้นทุกตอนแล้วก็ทำเรตติ้งก้าวกระโจนจากตอนเปิดตัว 0.9% สู่เรตติ้ง 9.1% ในเวลาที่ 5 ในประเทศประเทศเกาหลีแล้วก็สร้างการเกิด ชั้น 1สำหรับการจัดลำดับ Top 10 Netflix ทั่วทั้งโลก ในหมวดซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษในอาทิตย์ปัจจุบันแล้วก็มีมีปริมาณชั่วโมงการรับดูมากถึง 23.95 ล้านชั่วโมงทั่วทั้งโลก
ความน่ารักน่าเอ็นดูของ อูยองอู ทนายความอัจฉริยะซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ผลงานสุดท้าของผู้แสดงฝ่ายหญิงแถวหน้า พัคอึนบิน กับหน้าที่ ทนายออทิสติกคนแรกของประเทศเกาหลีใต้ มาพร้อมผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง คังแทโอ ซึ่งหัวข้อนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้แสดงนำชายอย่างสุดกำลัง พวกเขาพร้อมนำทางสู่โลกที่จะเปลี่ยนแปลงความผิดพลาดให้แปลงเป็นความพิเศษ ผ่านการไขคดีที่อีกทั้งสนุกสนาน เป็นสุข แล้วก็ฟีลกู๊ดกระทั่งหัวใจพองโต
ซีรีส์ที่เล่าราวของทนายความสาววัย 27 ปี ที่มีกรุ๊ปอาการแอสเพอร์เกอร์ ซีรี่ย์เกาหลี คุณมีความฉลาดทางสติปัญญามากถึง 164 การเขียนจำที่ยอดเยี่ยม แล้วก็ระบบความนึกคิดที่ประดิษฐ์ อูยองอู สำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดจากวิทยาลัยข้อบังคับของมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล แม้กระนั้นแต่กระนั้น เมื่อคือเรื่องของการเข้าสังคม คุณกลับคิดว่าทำเป็นอย่างทุกข์ยาก
Extraordinary Attorney Woo บอกเล่าเรื่องราวของ อูยองอู (สวมบทบาทโดย พัคอึนบิน) หญิงสาวผู้เกิดขึ้นมาพร้อมภาวการณ์ออทิสติกสเปกตรัม ทำให้คุณเจอกับความผิดพลาดด้านวิวัฒนาการทางร่างกาย การพูด การแสดงความประพฤติ ตลอดจนความสามารถการเข้าสังคม ถ้าหากแต่ว่าในวัยเด็กผู้เป็นบิดาได้ศึกษาและทำการค้นพบว่าอูยองอูเป็นอัจฉริยะ คุณมีความฉลาดทางสติปัญญาสูงที่ 164 วิธีการคิดและก็สิ่งที่จำเป็นยอดเยี่ยมมากยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป
ความพิเศษดังที่ได้กล่าวมาแล้วทำให้อูยองอูแปลงเป็นบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล แถมยังทำแต้มสอบเนติบัณฑิตได้สูงลิบลิ่วจนถึงสำนักข้อบังคับแถวหน้าของประเทศอย่าง ฮันบาดา จำต้องรีบคว้าตัวให้ทำงานเป็นบุคลากรทนายท่ามกลางสังคมใหม่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่สงสัยในความพิกลพิการของคุณ ยังมีเพื่อนผู้ร่วมการทำงานใจดีอย่าง อีจุนโฮ (สวมบทโดย คังแทโอ) ผู้ชายที่รอช่วยเหลือให้อูยองอูปรับพฤติกรรมกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยอย่างช้าๆ
เต็มอกเต็มใจคุยรวมทั้งฟังอูยองอูได้เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับ วาฬ สัตว์เลือดอุ่นที่คุณเผลอไผล อูยองอูจำเป็นต้องต่อกรกับคดีอันสลับซับซ้อนที่พร้อมถั่งโถมเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความรู้ความเข้าใจ คุณจะดำเนินการสุดที่รักได้ดิบได้ดีแค่ไหน จำเป็นต้องเผชิญกับปัญหาแบบอย่างใด เชิญชวนไปพิสูจน์ความอัจฉริยะของคุณด้วยตาตนเองExtraordinary Attorney Woo ซีรีส์ข้อบังคับดราม่าเรื่องปัจจุบันที่ประดิษฐ์โดย พีดียูอินชิก
ผู้กำกับซีรีส์ที่แฟนละครทั้งโลกเรียกร้องให้ผลิตภาคถัดมากที่สุดอย่าง Vagabond (2019) คราวนี้แท็กทีมปฏิบัติงานร่วมกับ นักประพันธ์มุนจีวอน หญิงเก่งที่เคยพานักแสดงภาพยนตร์ที่คุณเขียนบทอย่าง Innocent Witness (2019) เอารางวัลแดซังจากเวที Baeksang Arts Awards มาครอบครองได้เสร็จ ภายหลังตอนต้นที่กระจายเสียงผ่านไปแม้ว่าจะทำเรตติ้งไปได้ไม่ดีนัก เหตุเพราะถ่ายทอดผ่านช่องเคเบิลสมาชิกใหม่อย่าง ENA ที่พึ่งจะหยั่งดูท่าทีทำละครไปได้ไม่กี่เรื่อง แม้กระนั้นขอปักหมุดไว้เลยว่าความน้ำดีของ อูยองอู ทนายความอัจฉริยะ จะพาทีมงานรวมทั้งดาราเดินสายรับรางวัลกันไม่หวาดไม่ไหวอีกรอบ แม้กระนั้นจะดีจังอย่างที่ว่ามาหรือเปล่า
ไดอะล็อกอันเรียบง่ายจากทีแรกๆของ Extraordinary Attorney Woo ที่ว่า ‘ในสายตาของทุกคน ฉันบางครั้งอาจจะกล่าวกุกๆกักๆแล้วก็แสดงทีท่าไม่ยุติธรรมชาติ แต่ว่าฉันรักข้อบังคับ ไม่ได้แตกต่างไปจากทนายบุคคลอื่นจ้ะ’ แปลงเป็นซีนฟาดศีรษะเข้าบ้านอันทรงประสิทธิภาพที่ทำให้ผู้ชมยอมแพ้ต่อความน่ารักน่าเอ็นดูของอูยองอูจนกระทั่งหมดใจ คุณเป็นผู้แทนของคนป่วยออทิสติกที่มานะแผดเสียงถึงสังคมให้รับทราบว่าความทุพพลภาพไม่ใช่ข้อผิดพลาดแต่ว่าเป็นความพิเศษ พวกเขาดูแลตนเองและช่วยเหลือคนอื่นๆในข้อจำกัดที่ตนมีอย่างเต็มที่ ด้วยความรู้สึกจากจิตใจอันบริสุทธิ์ซึ่งส่งผ่านการแสดงออกอย่างสุจริต
ขอยอมบทละครหัวข้อนี้เป็นพิเศษ ลำพังวิธีการทำซีรีส์ข้อบังคับตามเดิมผ่านตาถือได้ว่าเป็นปัญหาสุดหินพอเพียงอยู่แล้ว แต่ว่าการผลิตตัวละครที่เป็นตัวละครเอกที่มีภาวการณ์แอสเพอร์เกอร์ให้เป็นตัวชูโรง ผู้เขียนบทจำเป็นต้องแน่ใจว่าทำการบ้านมาอย่างยอดเยี่ยม ยากทั้งยังการนำเสนอ ยากทั้งยังซื้อใจผู้ชม รวมทั้งที่ยากไปกว่านั้นเป็นแนวทางการทำให้สังคมสารภาพความรู้ความเข้าใจของคนเจ็บออทิสติก แม้แม้กระนั้นตอนต้นที่ผ่านไปซีรีส์สามารถสอบได้ทุกความยากที่ว่ามา เนื้อหารายละเอียดที่ลึกซึ้ง บทสำหรับพูดแยบคายซาบซึ้งใจ และก็ความชำนาญการถ่ายทอดของผู้แสดง
ทุกส่วนประกอบที่ล้นไปด้วยประสิทธิภาพส่งให้ประเด็นนี้มีแม้กระนั้นความดีเลิศ ซีรี่ย์เกาหลี ดูแล้วจำต้องยิ้มตามแล้วก็อุ่นอย่างบอกผิดอย่างที่ได้บอกไปว่าจุดสำคัญสำคัญของ Extraordinary Attorney Woo เป็นการกล่าวยกย่องกลุ่มของผู้คนที่มีสภาวะออทิสติกสเปกตรัมเป็นหลัก พร้อมกันไปกับการนำเสนอปัญหาปัญหาต่อการดำเนินชีวิต เปิดมุมมองให้ผู้ชมสามารถรู้เรื่องแล้วก็เห็นด้วยพวกเขาอย่างเปิดกว้าง ฉะนั้นมู้ดแอนด์โทนของเรื่องก็เลยขับไปด้วยบรรยากาศอันนุ่มนวล
เปิดเผยให้มองเห็นสังคมที่โอบอุ้มอูยองอูอย่างอบอุ่นแต่ว่าไม่ลืมเลือนที่จะเผยแพร่ข้อเท็จจริงด้วยผู้แสดงมนุษย์หลายชิ้นที่ยังมีอคติต่อคนพวกนี้อยู่ แม้กระนั้นในที่สุดมั่นใจว่าความน่ารักน่าเอ็นดูของอูยองอูจะมีผลให้ทุกคนหันมาเห็นด้วยคุณ แปลงเป็นความลึกล้ำประทับใจที่กำลังจะได้รับจนกระทั่งอิ่มเอมช่วงเวลาเดียวกันพาร์ทข้อบังคับยังทำออกมาได้เข้มข้นตามมาตรฐานของซีรีส์ประเทศเกาหลี มองเห็นได้จากคดีแรกที่ถึงแม้เริ่มด้วยการทำร้ายปกติ
แต่มีจุดหักเหพลิกแพลงกระทั่งทนายความอูยองอูเกือบจะเอาไม่อยู่ ที่สำคัญสไตล์การเดินเรื่องของพาร์ทนี้ยังเชื่อมโยงไปสู่ความคลั่งไคล้ของอูยองอูด้วยงานคอมพิวเตอร์กราฟิกแสนสวย คุณมองเห็นเตารีดซึ่งเป็นพยานวัตถุในคดีว่ามีรูปร่างราวกับวาฬสเปิร์ม นำมุมมองจากปัญหาเกี่ยวกับวาฬมาใช้อ้างอิงในคดีจนกระทั่งกำเนิดเป็นมุมมองใหม่ที่คนใดกันก็ไม่คาดฝัน ความเพลิดเพลินก็เลยอยู่ที่ว่าอูยองอูจะแงะอะไรมาให้พวกเราได้ตลึงกันอีก เมื่อคุณจำต้องเจอกับคดีที่ยากขึ้นจะทำเช่นไร ตระเตรียมร้องว้าวไปกับความอัจฉริยะของคุณกันได้เลย
Watch Extraordinary Attorney Woo อูยองอู ทนายความอัจฉริยะเส้นเรื่องหลักเป็นการว่าความของทนายความอูยองอู โดยจะจบในตอนแต่ละตอนจะมีรายละเอียดแตกต่างอีกทั้งคดีช่อคดโกงบ้าง ปองร้ายบ้าง นานาจิตตัง ในแต่ละเรื่องจะมีความน่าดึงดูดใจในตัวกฎหมายของประเทศเกาหลีที่จะจำต้องมองหาช่องโหว่เพื่อกลับคดีโดยความสะดุดตาในแต่ละในเวลานั้นทำเป็นบันเทิงใจไม่มีเบื่อและก็มีการชิงไหวชิงพริบสำหรับเพื่อการแก้ต่างให้กับลูกความในแต่ว่าคดี เส้นเรื่องรองเป็นการใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยความต่างของอูยองอูที่จำต้องดำรงชีวิตกับอาการออทิสติก แอสเพอร์เกอร์
ทำให้คุณไม่ราวกับคนธรรมดาทั่วไป ซีรี่ย์เกาหลี รวมทั้งคุณเป็นผู้ที่คลุ้มคลั่งรักปลาวาฬจะเทียบทุกสิ่งทุกอย่างอุปมาอุปไมยเป็นปลาวาฬ gimmick นี้น่ารักน่าเอ็นดู ผู้เขียนบทจำต้องทำการบ้านหนักพอควร ทั้งยังในด้านของข้อบังคับแล้วก็สายพันธุ์ปลาวาฬซึ่งสามารถเอามาเชื่อมโยงกันได้เส้นเรื่องรองย้ำความเชื่อมโยงของอูยองอูกับผู้คนรอบข้าง ครอบครัว สหายรวมทั้งสังคมที่งาน เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน เพื่อนพ้องร่วมอาชีพ ทนาย อัยการ ตุลาการ
สิ่งกลุ่มนี้ที่ในชีวิตจริงคนธรรมดาอย่างพวกเราๆก็ต่อกรยากแล้วไหนจะนายจ้างด่าทอ เพื่อนผู้ร่วมการทำงานอิจฉา ฟังดูเหมือนกับว่ามันควรดราม่าเคล้าน้ำตาแต่ว่าไม่เลย นี้นักเขียนบทและก็คณะทำงานทำออกมาดีเลิศเป็นอบอุ่นแบบครึ่งดิบครึ่งสุกลุ้นแล้วก็เอาใจช่วยทุกคราวในทุกปัญหา เรื่องราวของอูยองอูติดต่อกับผู้ชมอยู่เสมอเวลาว่า ในทุกไม่เหมือนกันพวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าเกิดพวกเราเห็นด้วยข้อผิดพลาด
ซึ่งกันและกันโดยยิ่งไปกว่านั้นสังคมสหายร่วมงานที่ตรงนี้ได้ทำความเข้าใจและก็ได้แง่คิดอะไรดีๆหลายสิ่งหลายอย่าง ว่าพวกเราต้องการเป็นหัวหน้าแบบไหนรวมทั้งปัจจุบันนี้พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานแบบในซีรีส์หรือไม่ ดูหนังมองละครแล้วย้อนดูตัวไปอีกแรง ชะนีอ้วนชี้แนะเลยถ้าหากคนไหนที่กำลังจะต้องจัดการ หรือรับศึกในสถานที่ทำงาน หัวข้อนี้จะช่วยเตือนสติแล้วก็ให้แง่คิดหลายสิ่งหลายอย่างช่วยทำให้พวกเราสามารถนำไปปรับใช้สำหรับเพื่อการจัดการที่งานได้แน่ๆ
Bulgasal Immortal Souls วิญญาณอมตะ
แนวดราม่า แฟนตาซี เกี่ยวกับภูติผีอมตะ บุลกาซัล รวมทั้งความแค้นระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่ตามล่ากันผ่านโลกระหว่างประเทศ ขั้นแรกไปย้ำดำเนินเรื่องในสไตล์ Horror สยองขวัญที่ดูเหมือนจะได้อิทธิพลจากหนังสยองขวัญหลายแนวมายำรวมกัน ผสมกับแนวสืบสาวเพื่อค้นหาความลับที่เกี่ยวกับภูติผีบุลกาซัล รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้แสดงที่จะต้องกลับชาติมาเจอกันในช่วงปัจจุบัน รวมทั้งการหาวิธีปรับแต่งคำสาปแช่ง ส่วนครึ่งเรื่องจะเน้นย้ำดราม่าค่อนข้างจะเยอะแยะ
จำต้องดูการเล่าเรื่องที่เล่นกับหลักสำคัญกลับมาเกิดใหม่ได้สนุกสนาน แถมหักมุมไปๆมาๆหลายตลบในช่วงท้ายเรื่อง แม้กระนั้นก็ยังไม่พ้นสไตล์ประเทศเกาหลีแบบเดิมๆที่เน้นย้ำเรื่องโรมานซ์ความรักระหว่างผู้แสดงนำชายแล้วก็นางเอกจนกระทั่งดูดราม่าเกินความจำเป็นบ้าง รวมทั้งแอบยืดในหลายตอน แต่ว่าภาพรวมแล้วนับว่าเป็นซีรีส์ประสิทธิภาพเรื่องหนึ่งเลย
เรื่องของซาตานอมตะ บุลกาซัล รวมทั้งความแค้นระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่ตามล่ากันผ่านโลกระหว่างชาติ ดำเนินเรื่องสไตล์แฟนตาซีผสมสยองขวัญ รายละเอียดโทนดราม่ามืดหมองขั้นแรก ซีรี่ย์เกาหลี แต่ว่าตอนกึ่งกลางเรื่องถึงช่วงท้ายออกแนวอบอุ่น ความเชื่อมโยงผู้แสดงแบบครอบครัว หักมุมบ่อยมากถึงด้านหลังเรื่อง หากแม้บางครั้งก็อาจจะเนือยและก็มองยืดไปบ้าง
Bulgasal เรื่องราวแนวดาร์กแฟนตาซีผสมสยองขวัญของประเทศเกาหลีหัวข้อนี้บอกกล่าวเกี่ยวกับความแค้นและก็ความเกี่ยวข้องแบบผ่านโลกระหว่างประเทศที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ชายหญิงคู่หนึ่งดันฮวัล เล่นบทโดย อีจินอุค เด็กหนุ่มผู้ถูกกล่าวร้ายว่าเป็นเด็กจำต้องคำสาปแช่งตั้งแต่กำเนิดว่าเขาถูกอสุรกายในตำนานอย่าง บุลกาซัล ตามล่าสังหาร ในที่สุดแล้วเขาแปลงเป็นอมตะรวมทั้งจะมีชีวิตด้วยการดูดกินเลือดมนุษย์
จุดมุ่งหมายของเขามีเพียงอย่างเดียวเป็นตามหาหญิงสาวปัญหาที่มีส่วนทำให้เขาจะต้องคำแช่งกระทั่งมาถึงช่วงปัจจุบันไม่นซางอุน เล่นบทโดย ควอนทุ่งนารา หญิงสาวปัญหาคนที่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีและก็กลับมาเกิดใหม่อีกรอบ ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุลกาซัล ถูกฆ่าไปในสมัยสมัยก่อนและก็กลับมาเกิดใหม่ในช่วงปัจจุบัน ซึ่งคุณก็อยากได้ค้นหาปัญหาความลับของอสุรกายบุลกาซัลรวมทั้งหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ที่น่าดึงดูดก็คือ
นักแสดงที่เคยเจอและก็มีส่วนเกี่ยวข้องผูกพันกันในสมัยอดีตกาล ไม่ว่าจะเป็นความชมรมในแบบที่ดีหรือเลว พวกเขาก็จะกลับมาเจอกันใหม่ในโลกช่วงปัจจุบัน และก็มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกทีไม่ทางใดก็ทางหนึ่งประเด็นนี้เป็นซีรีส์ประเทศเกาหลีแนวดาร์กแฟนตาซี แอ็กชั่น ดราม่า ที่เล่าด้วยบรรยากาศค่อนข้างจะซีเรียส คละเคล้าสยองขวัญ ซึ่งไม่ค่อยได้มองเห็นกรรมวิธีการเล่าแนวนี้กับซีรีส์ประเทศเกาหลีมากเท่าไรนัก
ในขณะที่มองหัวข้อนี้อดคิดมิได้ว่าได้รับอิทธิพลจากหนังสยองขวัญของฝั่งไต้หวันมาบ้างหรือไม่ ด้วยเหตุว่ารูปแบบของการใช้โทนสี มุมกล้องถ่ายภาพ การตัดต่อภาพ จังหวะการเล่า ซีรี่ย์เกาหลี ดูราวกับว่าพวกเรากำลังรับดูหนังสยองขวัญฝั่งไต้หวันที่ถูกใจเล่นกับเรื่องความเชื่อถือ ภูตผีปีศาจ หรือตำนานในเขตแดน
สำหรับภูติผี “บุลกาซัล” ในประเด็นนี้ เสมือนได้รับแรงจูงใจมาจากเอาปีศาจร้ายหลายแบบมายำรวมกัน โดยยิ่งไปกว่านั้นแวมไพร์ผสมซอมบี้ แล้วก็เสมือนได้หนทางแบบ Highlander มาผสมด้วย ฉะนั้นในระหว่างที่มองประเด็นนี้ ถ้าเกิดเป็นผู้ที่ดูหนังสยองขวัญ หนังภูติผี หนังคัลท์มาเยอะมากๆพวกเราจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอะไรแนวๆนี้ซ่อนเร้นอยู่ในหนังค่อนข้างจะมาก ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต
การเล่าตำนานของบุลกาซัลก็จัดว่าน่าดึงดูด ในด้านการมัดโยงความศรัทธาเรื่องภูติผีปีศาจในแคว้นของคนประเทศเกาหลีโบราณตั้งแต่ตอนต้นสมัยโชชอน แล้วยังมีการจิกกัดสังคม ด้านมืดของจิตใจมนุษย์ ที่ในยามชีวิตเหนื่อยยากก็มักมองหาบางอย่างเพื่อกล่าวร้ายไว้ก่อนโดยไม่ต้องพึงพอใจเหตุผลอะไรนัก แล้วก็ทำให้ผู้แสดงนำจะต้องแปลงเป็นเด็กจำเป็นต้องคำแช่งตั้งแต่กำเนิด ก็แค่ซีรีส์เลือกที่จะเล่าในหัวข้อที่ว่าตัวเขาก็จำต้องคำแช่งจริงๆรวมทั้งอยากได้หาทางสลายคำสาปแช่งนี้
ด้านโปรดักชั่น จัดว่าทำเป็นออกจะดี อีกทั้งงานภาพ เสียง การตัดต่อ ซึ่งส่วนที่เล่าตอนย้อนอดีตจัดว่าจัดเต็มรวมทั้งทำเป็นราวหนังแอ็กชั่นดราม่าย้อนยุคดีๆสักเรื่องหนึ่ง ประเภทที่ว่าในช่วงเวลาที่ 1 สามารถปรับเอามาทำเป็นหนังเรื่องหนึ่งได้สบายๆเลย ที่ตรงนี้จะต้องขอดูที่งานสร้างซีรีส์ประเทศเกาหลีมาไกลจริงๆด้านดารานำหลักสองคนเป็น อีจินอุค รวมทั้ง ควอนที่นารา เล่นได้ดิบได้ดี น่าติดตาม อีกทั้งการแสดงทางสีหน้า บางเวลาไม่ต้องมีบทสนทนาที่คาดคั้นพลังมากมายแต่ว่าก็รู้สึกได้ถึงการส่งอารมณ์ได้อย่างดียิ่ง ส่วนดาราหนังสมทบคนอื่นๆก็ทำเป็นดีด้วยเหมือนกัน
นักเขียนบทหัวข้อนี้ เขียนบทขึ้นมาโดยอ้างอิงวรรณกรรมเกี่ยวกับอสูรกายประเทศเกาหลี ที่กล่าวขานกันมานานแล้วก็ชูตำแหน่งตัวประหลาดตัวนำให้ บุลกาซัล สัตว์ในเทพนิยายที่ฆ่าไม่ตายเพราะเหตุว่าไม่มีวิญญาณ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ได้ด้วยการกินเลือด เมื่อใดที่มันโกรธเล็บจะกลายเป็นสีดำแล้วก็ส่งพลังงานทำลายให้ผู้คนที่อยู่ใกล้เลือดกำเดาไหล อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงจนถึงสิ้นใจตายท้ายที่สุด เรียกว่าเป็นอสูรกายที่ชั่วร้ายที่สุดในบรรดาตัวประหลาดทั้งปวงในเรื่องก็ว่าได้
การเล่าตำนานของบุลกาซัลแล้วก็ตัวประหลาดตัวอื่นๆจัดได้ว่าดีทีเดียวจ้ะ มีการต่อสู้ที่สาดกระเด็น สู้กันอย่างจัดจ้าอย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่าถ้าหากเทียบเคียงเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วความแฟนตาซีแล้วก็แอ็กชันเลือดท่วมยังน้อยกว่าความดราม่าเป็นไหนๆเนื่องจากมีการผูกโยงความเชื่อถือเรื่องปีศาจร้ายโบราณของประเทศเกาหลีตั้งแต่สมัยโชชอน กับความยากจนข้นแค้นรวมทั้งเหนื่อยยากของชีวิตโดยให้แพะรับบาปเป็นใครบางคนที่หมดทางสู้ ดุจดังตำนานปอบที่พูดว่า “คุณยายสามันเป็นผีปอบ” แล้วรุมไล่ ฆ่าฟันเพื่อกำจัดจัญไรออกไปจากหมู่บ้านอย่างไรแบบนั้น
แต่ว่าพี่เกาเขาโหดเหี้ยมกว่าก็ตรงที่แพะตัวนั้นเป็นเด็กตาดำๆที่ถูกทำนายว่าจำเป็นต้องคำสาปแช่ง แถมบิดาแล้วก็แม่ก็ตัดช่องน้อยแต่ว่าพอใช้ เรียกว่าเป็นการจิกกัดสังคมไปเปลี่ยนๆว่าด้านมืดของดวงใจมนุษย์นั้นยากแท้เข้าใจ เพราะว่าเมื่อจนตรอกกันเมื่อใด ก็พร้อมจะป้ายความผิดใครบางคนเพื่อโยนบาปนั้นให้แบบไม่ต้องคิดพิจารณาไตร่ตรอง หนำซ้ำพอเพียงโตมาเขาก็แปลงเป็นอสุรกายไปจริงๆจากการกระทำที่เกิดจากคนอื่น
ซีรีส์เเลือกจับด้านนี้มาเล่า โดยให้การเดินเรื่องเป็นตำนานที่มีจริง ซีรี่ย์เกาหลี จนถึงมีการถูกสาปรวมทั้งหาแนวทางแก้คำแช่งนานหลายร้อยปี กระทั่งกำเนิดเงื่อนลึกลับรวมทั้งเกี่ยวเนื่องกันมาจนกระทั่งตอนนี้ ให้ผู้แสดงทุกตัวในเรื่องมีหน้าที่เด่นกันไปคนละด้าน กล่าวได้ว่าทุกคนมีสตอปรี่ที่สร้างความสัมพันธ์ให้ผู้แสดงรวมทั้งผู้ชมได้มีความรู้สึกร่วมไปด้วย เป็นดราม่าเอาจริงเอาจังที่ผสมกลิ่นความรักความแค้น ที่เกี่ยวเนื่องความเชื่อมโยงแบบผ่านโลกระหว่างประเทศ
กำเนิดแล้วตาย ตายแล้วยังแอบซ่อนปัญหาให้ไต่สวนกันอีก เป็นพล็อตผ่านโลกระหว่างชาติที่ทำออกมาได้ผิดแผกแตกต่างอย่างน่าดึงดูดสำหรับภาพรวมความเกี่ยวพันนักแสดงในหัวข้อนี้จะเน้นย้ำการโยงใยความเกี่ยวเนื่องแบบระหว่างชาติโลกของเหล่าผู้แสดง ว่าผู้ใดกันแน่เคยมีการทำกรรมใดกับผู้คนไว้ภายในชาติภพก่อน ชาติถัดมาก็ชอบจะต้องวนเวียนมาพบกันอีกจนได้ ซึ่งพลอตในสไตล์นี้คนประเทศไทยพวกเรารู้จักดีกันดีอยู่แล้วจากละครไทยหลายเรื่อง
แล้วหลังจากนั้นก็ชี้ให้เห็นว่าฝั่งประเทศเกาหลีก็ถูกใจพลอตแนวนี้เช่นเดียวกันครับผม โดยประเด็นนี้จัดว่าทำไดัดีในระดับหนึ่งเลยสำหรับในการโยงความเกี่ยวเนื่องของผู้แสดงส่วนข้อเสียก็มีไม่น้อย ได้แก่การเล่าเรื่องในตอนอดีตกาลที่ใช้เวลาปูบทออกจะนาน มีฉากแล้วก็เครื่องปรับอากาศไทม์อะไรบางอย่างที่ราวกับตั้งใจยืดเหลือเกินหน่อย ซึ่งก็น่าวิตกกังวลว่ามันจะเป็นอย่างงี้ไปจนถึงสิ้นเรื่องหรือเปล่า เนื่องจากว่าถ้าเกิดเป็นอย่างนี้จะมีหลายฉากที่มองเชื่องช้าไปเลย
ส่วนคนใดกันที่คาดหวังฉากแอ็กชั่นปราบซาตาน ประเด็นนี้ทำเป็นในระดับกลางงาน CG สำหรับพวกภูติผีปีศาจทำเป็นไม่เลวบางทีมองไปแล้วหลังจากนั้นก็แอบคิดว่าจะต้องออมงบประมาณ ทำให้ยังมิได้โชว์ของด้านงาน CG เท่าไร่นัก แถมใช้เครื่องปรับอากาศไทม์ออกจะมากมายกับฉากแนวดราม่ามากยิ่งกว่าฉากแอ็กชั่น นี้เลยอาจจะทำให้คนไม่ใช่น้อยที่มองคิดว่ามันกระยืดกระยาดเกินเหตุ ทั้งๆที่สามารถทำให้มันกระชับกว่านี้ได้หลายเท่า
บางทีอาจเป็นความตั้งใจของผู้กำกับก็ได้ที่อยากยืดรายละเอียดในทีแรกๆขอรับ แต่ว่าก็เลยเป็นข้อเสียที่โชคร้ายไปเลย สำหรับผู้ใดกันที่คาดหวังฉากแอ็กชั่นแล้วยังอีกจุดที่น่าวิตกเป็น หัวข้อนี้ค่อนข้างจะขาดมุกตลกขบขัน หรือจังหวะการดำเนินเรื่องแบบเบาสมอง แม้ว่าจะอุตสาหะแทรกสอดเข้ามาบ้างเป็นระยะ แม้กระนั้นก็ยังจัดว่าแล้งในส่วนนี้เนื่องจากเรื่องมันไปหนักที่ดราม่าแบบมืดมนกับความข้องเกี่ยวแบบระหว่างชาติโลกระหว่างผู้แสดงซะมากยิ่งกว่า
ทั้งหัวข้อนี้ไม่ค่อยเสนอเรื่องราวในมุมที่กว้างขึ้นสำหรับเหล่าผู้แสดง มันเลยดูเหมือนกับว่าเป็นดาร์กแฟนตาซีที่ “วนไปๆมาๆกับดราม่าของผู้แสดงไม่กี่คน” นับว่าเป็นจุดที่ทำให้เรื่องสำคัญต้องหาทางเชื่องช้ากระทั่งบางตอนก็มองใช้เวลากับฉากนักแสดงมองหน้ากันค้างๆซึ่งเป็นวิธียอดฮิตของซีรีส์ประเทศเกาหลีในระยะหลัง ในด้านหนึ่งมันก็มองวิจิตรตระการตารวมทั้งโชว์งานภาพกับการถ่ายทำงามๆอยู่เสมอเรื่อง แต่ว่าตอนแรกเครื่องปรับอากาศไทม์ยืดเยอะเกินไป ทำให้กว่าจะเข้ารายละเอียดที่เชิญติดตามจะต้องใช้เวลาพอควร
Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเด็ก
Juvenile Justice ซีรีส์ประเทศเกาหลี Original Netflix ที่มารวดเดียว 10 ตอนสุดท้ายอีกหัวข้อ โดยส่วนมากชอบเป็นเรื่องราวหลักยาวๆไปกระทั่งจบ แต่ว่าหัวข้อนี้เรื่องราวแบ่งเป็นคดีความๆราวๆ 2 ตอนต่อ 1 คดีไปจนถึงจบ ซึ่งเอาจริงเอาจังๆตัวพล็อตเรื่องอย่างงี้เหมาะสมที่จะทำเป็นซีรีส์ฉายลงโทรทัศน์มากยิ่งกว่าแม้กระนั้นที่ผันมาทำลงเน็ตฟลิกซ์ก็คงจะเพราะเหตุว่าปรารถนาขายหลักสำคัญแรงๆเรื่องความเหี้ยมโหดอำมหิตของผู้กระทำผิดกฎหมายเด็กในขณะนี้ที่นับวันยิ่งทวีความร้ายแรงขึ้นทั้งโลก จุดนี้เองที่น่าจะเป็นหลักสำคัญแมสทำให้ผู้ชมทั่วทั้งโลกพอใจเพราะว่ามีความใกล้ตัว
ทุกประเทศต่างมีคดีผู้กระทำผิดกฎหมายเด็กโหดเหี้ยมๆที่ข้อบังคับไม่สามารถลงทัณฑ์ได้เต็มกำลังเพราะว่าติดเรื่องอายุกับความเป็นเด็ก ซึ่งแต่ละประเทศก็จะหลักเกณฑ์อายุต่างๆนาๆ ส่วนในประเทศเกาหลีประเด็นนี้ถ้าหากอายุยังไม่ถึง 14 ปีจะใช้ข้อบังคับเยาวชนลงทัณฑ์มิได้ ทำเป็นเพียงแค่ส่งไปสถานที่พินิจพิจารณามีโทษสุงสุด 2 ปีส่วนหาก 14 ปีขึ้นไปแล้วก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะอายุครบ 20 ปีจะเป็นข้อบังคับเยาวชนที่มีอัตราโทษกับวิธีการพินิจแบบเยาวชนที่ต่างออกไปจากฎหมายคนแก่
มีโทษติดคุกสูงสุด 20 ปี แม้กระนั้นสำหรับการใคร่ครวญจะเป็นแบบปิด ซีรี่ย์เกาหลี ไม่เปิดเผย รวมทั้งมีการลดหย่อยผ่อนโทษอื่นๆมากยิ่งกว่าคนแก่ ซึ่งเนื้อหาประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่หัวข้อนี้อยากได้ตรวจเผยแพร่และก็พรีเซ็นท์ออกมาสู่ผู้ชมในสังคมเชื่อเลยว่าคนไหนกันแน่ที่ได้ดูตัวอย่างประเด็นนี้ก่อนอาจจะมีความคิดว่าจะมาในแนวถึงใจถึงอารมณ์โหดเหี้ยมทารุณไร้มนุษยธรรมกับผู้ร้ายเด็กในแต่ละแบบอย่างที่แบบอย่างตัดมาให้รู้เรื่องอย่างงั้น ซึ่งตัวเรื่อง 2
ตอนต้นก็ขายแบบงั้นด้วยการนำเสนอคดีเด็กอายุ 13 ปีฆ่าหั่นศพเด็กอายุ 8 ขวบอย่างเหี้ยมโหด ก่อนที่จะไปมอบตัวกับตำรวจแบบไม่เกรงกลัว เนื่องจากว่ารู้ดีว่าข้อบังคับเอาผิดเขาเต็มๆมิได้ ซึ่งในคดีแรกก็เป็นการเปิดตัว “ซิมอึนซอก” (สวมบทบาทโดย คิมฮเยซู) นางเอกของเรื่องที่พึ่งพิงย้ายตัวมารับไม่ถูกถูกใจคดีในศาลเด็กและเยาวชน แต่ว่าไม่ใช่ตำแหน่งตุลาการโดยตรง เป็นตำแหน่งสมทบ หรือเข้าใจง่ายๆก็คือผู้ช่วยตุลาการใหญ่อีกครั้ง (คังวอนจุง รับบทบาทโดย อีซองไม่น )
ซึ่งจะมี “แทจู” (เล่นบทโดย คิมมูยอล )เป็นผู้ที่มาร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันอีกคน ตัวเรื่องจะใช้เวลาชี้แจงแบบอย่างกระบวนการทำคดีในศาลเด็กให้ผู้ชมได้รู้เรื่อง ในคดีใหญ่ๆจะมีตุลาการ 3 คน คดีเล็กลงมาหน่อยตุลาการก็จะลงมาเป็น 2 คนหลักกับรอง หรือผู้เดียวรับผิดชอบทั้งผองผู้อื่นเข้ามาล่วงล้ำมิได้ ซึ่งคดีฆ่าหั่นศพเคสแรกจะเป็นต้นแบบตุลาการ 3 คนนางเอกเอกเป็นตำแหน่งสมทบ มิได้มีบทบาทอ่านคำพิพากษา
และก็ในงานของตุลาการเองก็จะไม่มานะไต่สวนหาหลักฐานเพิ่มจากที่ตำรวจกับอัยการส่งขึ้นมา ซีรี่ย์เกาหลี รวมทั้งจะต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออกไป แม้กระนั้นในคดีแรกนี้เองนางเอกได้ก้าวเข้ามเปลี่ยนการทำงานแบบเดิมของศาลเด็กไปหมด คุณบากบั่นหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกในคดีเพื่อหาสิ่งที่หลบซ่อนเร้นไว้กว่าหลักฐานที่มี
แล้วก็ยังคงใช้ความรู้สึกโกรธโกรธแค้นส่วนตัวเข้ามาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการไล่บี้ผู้ร้ายเด็กให้ได้รับโทษสูงสุดเสมอ ซึ่ง 2 ตอนต้นนี่เรียกว่าเรื่องราวเดือดสุดๆอีกทั้งการสืบคดีนอกจากขอบเขตการทำงาน ที่สุดด้านหลังคดีหั่นศพนี้ไปไกลกว่าที่มองเห็นช่วงแรกอีกชั้น ความผิดปกติของตัวเด็กที่ก่ออาชญากรรม ที่ทราบดีว่าตนเองอย่างไรก็รอด
กระแสสังคมที่เรียกร้องบทกำหนดโทษกับผู้กระทำผิดกฎหมายเด็กก็บีบคั้นขึ้นเรื่อยแล้วก็ยังมีเรื่องมีราวความไม่ลงรอยกันสำหรับการดำเนินการกับอีกทั้งแทจูกับหัวหน้าของคุณ ซึ่งไม่เห็นพ้องและไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุใดคุณถึงเป็นผู้ที่แหกกรอบแข็งกระด้างกับเด็กขนาดนี้ เสมือนอยากได้บี้เอาให้ตายมากยิ่งกว่าจะเป็นการช่วยรักษาฟื้นฟูผู้กระทำผิดกฎหมายเด็กไม่ให้เติบโตขึ้นมาเกี่ยวกับอาชญากรรมอีก ซึ่งนี่เป็นหัวใจของแนวทางการทำงานของศาลนี้มากยิ่งกว่าศาลคนแก่ที่เน้นย้ำบทกำหนดโทษติดตะรางโดยตรง
เรื่องราวในคดีแรกเรียกว่าติดไฟให้ผู้ชมติดได้แน่นอนเนื่องจากมันเป็นอะไรด้ามจับจะต้องได้เป็นจริงในตอนนี้ แล้วก็จำนวนมากก็อาจจะเห็นว่าเป็นความไม่แฟร์ตามกฎหมายที่ยังมิได้รับการปรับแก้ในหลายๆประเทศ รวมทั้งไทยด้วย ซึ่งตัวเรื่องตั้งประเด็นประเด็นการแก้ข้อบังคับหัวข้อนี้ไว้ว่า ควรจะยกเลิกไปเลยใช้ข้อบังคับเดียวกับคนแก่ หรือเพิ่มข้อบัญญัติโทษให้ร้ายแรงขึ้น
หรือควรจะเน้นย้ำเพิ่มความช่วยเหลือเกื้อกูลกับเด็กมากขึ้นเรื่อยๆกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งตัวเรื่องเพียรพยายามเล่นเงื่อนนี้แทรกสอดไว้ตลอด เพื่อนำมาใช้เกิดเรื่องราวใหญ่ในต่อมา (แม้กระนั้นไม่ใช่ไคลแม็กซ์ของเรื่อง) เรื่องราวต่อจากนี้ก็เลยเป็นการตรวจสอบโลกของงานในศาลคดีเยาวชนมากยิ่งกว่า ซึ่งก็เปลี่ยนเป็นเรื่องจากที่เริ่มต้นได้แรงพีคสุดๆกลับเล่นคดีเบาลงมาทันหน โดยคดีสองเป็นการเยี่ยมชมตรวจทานศูนย์ฟื้นฟูผู้กระทำผิดกฎหมายเด็ก ที่ราวกับที่พักดูแลจิตใจเด็กต่าง ไปจากสถานที่พิเคราะห์ สำหรับเด็กที่มิได้มีโทษแรง
ซึ่งเรื่องราวก็แปลงเป็นไปพบเงื่อนโกงในบ้านพัก รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวละเลยเด็ก การหลงทางของเด็กผู้หญิงที่สุดด้านหลังส่งผลให้เกิดวิธีขายตัว เรื่องราวในเคสถัดมาลดโทนความร้ายแรงลงแบบฮวบฮาบในทันที ซึ่งก็รู้เรื่องได้ว่าอยากได้เปลี่ยนแปลงอารมณ์ให้นานัปการ เนื่องจากว่าคดีของเด็กไม่ใช่มีแต่ว่าโหดเหี้ยมๆแบบทีแรกๆ และก็การนำเสนอปัญหาด้านสังคมรอบด้านก็ทำให้ซีรีส์หัวข้อนี้มองเอาจริงเอาจังกับหัวข้อการจัดการกับปัญหา
มากยิ่งกว่าเกิดเรื่องแต่งเอาชั่วร้ายดิบคดีแรงขึ้นๆอย่างที่ก่อนมาดูรู้เรื่องว่าอย่างงั้น ซึ่งก็บางทีก็อาจจะมองไม่แฟร์ต่อเยาวชนได้แบบเดียวกันถ้าหากพรีเซนเทชั่นไปในแนวทางเดียวแบบงั้นแต่ว่าความค่อยของเรื่องก็เรียกว่าลดน้อยลงเป็นลำดับคดีเลย เคสถัดจากนี้เกิดเรื่องการโกงทุจริตข้อสอบที่มีลูกหลานคนใหญ่โตมาเกี่ยวโยง ซึ่งพล็อตแบบงี้นับว่าเกร่อมากมาย แม้กระนั้นหัวข้อนี้ก็ลากเอาเงื่อนประเด็นนี้มาเกี่ยวข้องกับหัวหน้าของคุณ
ซึ่งกำลังจะสมัครเป็น สส. ตัวเคสนี้แม้ว่าจะมีแรงกดดันไม่ตรงกันกับหัวหน้าของนางเอกที่ทำให้เรื่องมองเครียดบีบคั้นกับการทำงานแต่ว่าในวิถีทางของเรื่องที่พุ่งเป้าไปที่ความร้ายแรงของผู้ร้ายเด็กดูเหมือนจะหลุดไปเลย ไปเน้นย้ำที่ปัญหาของคนแก่ที่ทำให้เด็กจำต้องมาคดโกงสำหรับเพื่อการเรียนแทน หากแม้ใจความสำคัญกับเจตนาของเรื่องจะดี แม้กระนั้นพล็อตมันเกร่อมากมาย และก็ไม่มีอะไรกลับด้วย บทเป็นไปตามสูตรทั่วๆไปที่คาดคะเนได้อยู่แล้ว
ทำให้เปลี่ยนเป็นขณะที่ราวกับตอนขาลงของซีรีส์ รวมทั้งตอนถัดจากนี้ก็ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมนี้เข้าไปอีก เมื่อเปิดมาด้วยคดีกรุ๊ปเด็กไร้ใบขับรถขับชนผู้เสียชีวิต ดูเหมือนจะเป็นคดีความทีมีอะไรแรงๆให้ได้เล่นแม้กระนั้นเรื่องกลับหันไปจุดโฟกัสที่ความผิดใจกันกับตัวหัวหน้าคนใหม่ของนางเอกแทน ก่อนจะจบลงแบบง่ายๆไม่มีอะไรเลย ซึ่งในขณะที่ผ่านๆมาเรื่องก็ชอบจัดการเงื่อนแบบจู่ๆก็มีหลักฐานใหม่เข้ามาทำให้ปิดคดีได้ในทันที
แม้กระนั้นอย่างในช่วงเวลานี้เป็นอะไรที่ง่ายดายเสียยิ่งกว่านั้นอีก ซีรี่ย์เกาหลี แปลงเป็นขณะที่จบแบบไม่เอาใจใส่แค่เพียงอยากได้จุดเงื่อนในอดีตกาลของนางเอกกับหัวหน้าคนใหม่แค่นั้นตัวบทหลังจากนี้อุตสาหะจะเล่นเงื่อนสมัยก่อนความลับของนางเอกที่เพราะเหตุใดคุณถึงเกลียดชังผู้กระทำผิดกฎหมายเด็กขนาดนี้
แม้กระนั้นพอเพียงเรื่องเฉลยคำตอบออกมาว่าเกี่ยวอย่างไรกับหัวหน้าคนใหม่ เปลี่ยนเป็นอะไรที่ออกจะอ่อนมากมาย เป็นเจตนาของการเล่นเงื่อนความบกพร่องของตุลาการรุ่นก่อนน่ะดีอยู่ แต่ว่ามันกลับมองเป็นอะไรที่เฟคชุ่ยแบบหวัดๆเลยก็ว่าได้ว่าตุลาการระดับนี้เป็นอย่างงี้ กลับจำต้องให้นางเอกมาสอนการทำงาน สอนทัศนคติที่ดูแล้วย้อนโต้แย้งในตนเอง ย้อนโต้เถียงกับเรื่องจริงของการทำงานตุลาการด้วย
The Cornered Mouse Dreams of Cheese ให้รักฉันอยู่ในมุมหัวใจคุณ
เริ่มตำนานบทนี้มาจากการ์ตูนบอยเลิฟสุดได้รับความนิยมเป็นที่นิยม ที่ประดิษฐ์โดยคุณครู เซโตนะ ไม่ซุชิโระ ผลงานควบคุมโดย อิซาโอะ ยูกิซาดะ ผู้กำกับเรียกบิดามดของการปลุกเสกน้ำตา แล้วก็โอลุกระ ทะดะโยชิ นักแสดงจากวง คันจานิ 8 รับบทบาทเป็น เคียวอิจิ โอโตโมะ โอระอุระ รวมถึงท้องนาริตะ เรียว ดารามากเรื่องสามารถที่ปัดกวาดรางวัลมาแล้วล้นหลามในเวทีโลก เล่นบทเป็น วาตารุ อิมากาเสะ สุดที่รักเดียวใจเดียวตั้งมั่นในเคียวอิจิ
The Cornered Mouse Dreams of Cheese ให้รักฉันอยู่ในมุมหัวใจคุณ เป็นหนังที่เสนอเรื่องราวของ เคียวอิจิ โอโตโมะ (ทาดาโยชิ โอปะทุระ) ซึ่งในเรื่องเขาได้แอบนอกใจเมีย รวมทั้งแล้วเขาก็ได้เจอกับเพื่อนเก่ายุคมหาวิทยาลัย วาตารุ อิมางาเซะ (เรียว ท้องนาริตะ) ซึ่งเป็นรุ่นน้องสถานที่สำหรับทำงานเป็นนักสืบเอกชน รวมทั้งมาบอกว่าเมียได้ว่าจ้างให้เขามาตามดูว่า เคียวอิจิ นอกใจใช่หรือไม่ วาตารุผู้หลงเสน่ห์เคียวอิจิมา 7 ปีก็เลยยื่นขอเสนอว่าจะปิดเรื่องความข้องเกี่ยวของเคียวอิจิเป็นความลับ
ถ้าเกิดเคียวอิจิยอมจูบเขาอันหวานชื่นเป็นการแลกไม่เคยคิดเลยขอรับว่าจะได้ดูหนังบอยเลิฟสายวาย ต้อนรับวันแห่งความรัก แถมดันติดเรต 18+ อีกต่างหาก เป็นไม่ได้อะไรกับสายวายครับผม แม้กระนั้นสิ่งที่ผมรู้สึกเอ๊ะเอ๊ะเล็กน้อยก็คือ ความเรต 18+ ของหนังหัวข้อนี้นี่แหละครับผม ตอนต้นผมนึกว่า หนังหัวข้อนี้ก็คงจะมีฉากวายแบบวาบหวามเสมือนซีรีส์วายทั่วๆไปนี่แหละ
มองเห็นจากหน้าหนังมองเป็นหนังรักใสๆด้วย panacea-project แม้กระนั้นเพียงพอเข้าไปมองจริงๆผมถึงกับจำต้องเขียนในสมองเลยว่า หากจะเขียนรีวิวจะต้องเน้นย้ำตัวดกรวมทั้งขีดเส้นใต้เลยว่า มัน 18+ แบบว่าไม่สมควรพาเด็กมาดูเลยอ่ะนะครับ สักครู่จะกล่าวหาไม่เตือนในเบื้องหน้าเบื้องหลังความใสสะอาดกิ๊ง สิ่งที่เกิดเรื่องราวแก่นหลักอาจจะไม่ใช่เรื่องว่าความรักสาย LGBT ของเคียวอิจิแล้วก็อิมากาเสะเป็นยังไง แน่ๆว่า ความรักของทั้งสองมันก็เป็นแก่นหลักของเรื่ีองนั่นแหละครับ
แต่ว่าสิ่งที่ตัวหนังไปได้กว้างและก็ลึกกว่านั้นมากๆ(ย้ำว่ามากมายๆ) เป็นการนำเสนอเรื่องราวของความส่วนตัวของความข้องเกี่ยวต่างหากซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จุดกำเนิดของความเชื่อมโยงของทั้งสองจะเริ่มด้วยความไม่เต็มใจ หรือจะเรียกว่าเป็นการรุกรามทางเพศ (Sexual Harassment) เลยก็ว่าได้ (ก็แหง เล่นไปขอจูบเขา รุกรามมองเห็นๆ555) รวมทั้งผมมั่นใจว่า ดูแล้วก็พอเพียงจะทายใจออกล่ะว่าทั้งสองจะจบกันเช่นไร
ถึงแม้พวกเราจะพอนึกทรงความเกี่ยวพันของทั้งสองออก แต่ว่าก็จำต้องขอเล่าเลียบๆเคียงๆว่า ในอีกมุมหนึ่ง ความข้องเกี่ยวของทั้งสองมันก็อยู่บนความไม่ Healthy ด้วยครับ เป็นความสมาคมลับๆที่เริ่มจากความไม่เต็มใจ เคียวอิจิเองที่โดนรุ่นน้องรุกหนัก ก็ไม่เคยทราบจะ Come Out (การเปิดเผยเพศภาวะที่จริงจริง) ดีไหม
แถมตัวเขาเองก็ยังเสน่ห์แรงพอที่จะมีสตรีเข้ามาพันพัวอยู่เรื่อยจนถึงทำให้ความเชื่อมโยงของทั้งสองแปลงเป็นความเกี่ยวเนื่องแบบเปิด (Open Relationship) ที่ต่างก็เข้าๆออกๆในความเกี่ยวพันของกันและกันอย่างหละหลวมๆแม้ว่าจะมองไม่ Healthy เท่าไร แม้กระนั้นก็แอบมีความเติมเต็มความรู้สึกให้กันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งเพียงพอมันเป็นความสโมสรแบบเปิด ซีรี่ย์เกาหลี ที่ทั้งสองมิได้มีอะไรผูกมัดว่าจะคบกัน แน่ๆว่ามันก็กำเนิดความ “แตกต่าง” ในน้ำหนักของความเกี่ยวพัน ที่ทั้งยังผิดแผกแตกต่างและไม่เสมอกัน รักจริงของคนคนหนึ่ง บางทีอาจเป็นเพียงแค่จูบและก็เซ็กส์แก้หงอยเหงาของอีกคนหนึ่งความลึกล้ำในความเกี่ยวข้องของคนหนึ่งในเวลาหนึ่ง
บางทีอาจไม่ใช่และไม่เท่ากันกับความเกี่ยวพันของอีกคนหนึ่งในอีกระยะเวลาหนึ่งก็เป็นไปได้ แล้วก็บางโอกาสพวกเราเองก็ไม่สามารถที่จะวินิจฉัยได้ว่าความสมาคมแบบใดดีไหมดี ความเกี่ยวพันที่จริงจริงของมนุษย์บางทีอาจเป็นเพียงแต่บางสิ่งที่เอาแน่เอานอนมิได้ และไม่มีคนไหนเดาอะไรได้ถูกเผงทั้งหมด แม้กระทั้งตัวของพวกเราเองก็ตาม
จริงๆที่ชี้แจงเรื่องความเกี่ยวข้องอันสลับซับซ้อนมาตั้งยาว ก็เพียงแต่เพื่อจะกล่าวว่า อย่าวางใจหนังหัวข้อนี้เด็ดขาดครับ เพราะว่าถึงแม้หนังจะมองใสๆรวมทั้งแผนภูมิของหนังจะมองนิ่งๆไม่พุ่งพรวดมากแค่ไหน แต่ว่าเป็นหนังที่เล่าและก็ถามเรื่องความรัก ความเกี่ยวพันอันวุ่นวายสลับซับซ้อน และก็จุดแตกสลายของความเกี่ยวพันได้อย่างมากถ่วงมากมายๆ
โดยมีเรื่องมีราวของเพศภาวะเข้ามาเป็นข้อจำกัดอันเอาจริงเอาจังที่ทำให้เกิดความรัก ความเจ็บ ความปั่นป่วน แล้วก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการแตกสลายของความข้องเกี่ยวสุดท้ายพล๊อตเรื่องต้องใจแฟนภาพยนตร์สายวายเรื่องราวของ เคียวอิจิ โอโตโมะ (โอระอุระ ทะดะโยชิ ) ผู้แอบนอกใจเมียวันหนึ่ง เขาได้เจอกับเพื่อนเก่ายุคมหาวิทยาลัย วาตารุ อิมางาเซะ ( เรียว ที่นาริตะ ) รุ่นน้องสถานที่สำหรับทำงานเป็นนักสืบเอกชนรวมทั้งมาบอกว่าเมียได้ว่าจ้างให้เขามาตามดูว่าเคียวอิจินอกใจจริงรึเปล่า
วาตารุผู้หลงเสน่ห์เคียวอิจิมา 7 ปี ยื่นขอเสนอว่าจะปิดเรื่องความข้องเกี่ยวของเคียวอิจิเป็นความลับ ซีรี่ย์เกาหลี ถ้าหากเคียวอิจิยอมจูบเขารวมทั้งด้วยรายละเอียดที่เข้มข้นไม่เหมือนกับต่างจากภาพยนตร์บอยเลิฟทั่วๆไป ส่งให้ “เรียว ท้องนาริตะ” ผู้แสดงของเรื่องได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัล ดาราหนังส่งเสริมชายเยี่ยมยอด บนเวทีออสการ์ประเทศญี่ปุ่น Japan Academy Film Prize
