ประวัติของโรบิน ฟาน เพอร์ซี (Robin van Persie)

โรบิน ฟาน เพอร์ซี (Robin van Persie) เป็นอดีตกองหน้าฟุตบอลชาวดัตช์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคของเขา ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในด้านเทคนิค การควบคุมบอล วิสัยทัศน์ในการเล่น และการจบสกอร์ที่เฉียบคม ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองและเป็นตำนานของหลายสโมสร

ข้อมูลส่วนตัวโดยย่อ

• ชื่อเต็ม: โรบิน ฟาน เพอร์ซี (Robin van Persie)
• วันเกิด: 6 สิงหาคม ค.ศ. 1983
• สถานที่เกิด: รอตเทอร์ดาม, เนเธอร์แลนด์
• ส่วนสูง: 1.83 เมตร (6 ฟุต 0 นิ้ว)
• ตำแหน่งปัจจุบัน: หัวหน้าโค้ชสโมสรเฟเยนูร์ด (Eredivisie)

เส้นทางอาชีพค้าแข้ง

• เฟเยนูร์ด (Feyenoord): เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับสโมสรบ้านเกิดอย่างเฟเยนูร์ด โดยได้ลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2001-2002 และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพได้ในฤดูกาลนั้น ความสามารถและพรสวรรค์ที่โดดเด่นของเขาดึงดูดความสนใจจากสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป

• อาร์เซนอล (Arsenal): ในปี 2004  ย้ายมายังพรีเมียร์ลีกอังกฤษเพื่อร่วมทีมอาร์เซนอล เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญและเป็นกัปตันทีมในฤดูกาลสุดท้ายกับสโมสร (2011-2012) ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกด้วยผลงาน 30 ประตู

• แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United): ในปี 2012 การย้ายไปร่วมทีมคู่แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดสร้างความฮือฮาอย่างมาก แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าสำหรับเขา เพราะในฤดูกาลแรกกับ “ปีศาจแดง” (2012-2013)  สามารถนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกเป็นปีที่สองติดต่อกัน

• เฟเนร์บาห์เช (Fenerbahçe): ในปี 2015 เขาย้ายไปค้าแข้งที่ตุรกีกับเฟเนร์บาห์เช และลงเล่นให้กับสโมสรเป็นเวลาสองฤดูกาลครึ่ง

• เฟเยนูร์ด (Feyenoord – ครั้งที่สอง): ในปี 2018  กลับไปปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับสโมสรที่เขาเริ่มต้นที่นั่น ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในปี 2019

เส้นทางอาชีพระดับทีมชาติ

เป็นผู้เล่นคนสำคัญและเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ด้วยสถิติ 50 ประตู จาก 102 นัด เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 สมัย (2006, 2010, 2014) และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 3 สมัย (2008, 2012, 2016) โดยมีผลงานเด่นคือการพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2010 และอันดับสามในปี 2014

สไตล์การเล่นและรางวัลเกียรติยศ

เป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง มีความสามารถในการจบสกอร์ด้วยเท้าซ้ายที่ทรงพลัง การเคลื่อนที่หาช่องที่ยอดเยี่ยม และการจ่ายบอลที่ชาญฉลาด เขามักจะทำประตูที่น่าจดจำหลายครั้ง รวมถึงลูกวอลเลย์ที่สวยงามและลูกยิงระยะไกล

รางวัลเกียรติยศที่สำคัญ:

• ระดับสโมสร
  • ยูฟ่าคัพ: 2001-2002 (กับเฟเยนูร์ด)
  • เอฟเอคัพ: 2004-2005 (กับอาร์เซนอล)
  • คอมมิวนิตีชีลด์: 2004 (กับอาร์เซนอล)
  • พรีเมียร์ลีก: 2012-2013 (กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)
• รางวัลส่วนตัว
  • นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ: 2011-2012
  • รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก: 2011-2012, 2012-2013
  • และอีกมากมาย

ข่าวสารล่าสุดของโรบิน ฟาน เพอร์ซี (อัปเดต ณ 31 กรกฎาคม 2568)

หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2019  ได้ผันตัวเข้าสู่วงการโค้ช โดยเริ่มต้นจากการเป็นโค้ชกองหน้าให้กับเฟเยนูร์ดในปี 2020 จากนั้นได้ก้าวขึ้นเป็นโค้ชเทคนิค และต่อมาเป็นโค้ชทีมเยาวชนของสโมสร

บทบาทโค้ช:

• หัวหน้าโค้ชเฟเยนูร์ด: ปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโค้ชของสโมสรเฟเยนูร์ดในเอเรดิวิซี ลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญในการกลับมายังสโมสรที่สร้างชื่อให้กับเขา
• ประสบการณ์ใน UCL: ในฐานะหัวหน้าโค้ช เขาได้เปิดเผยว่าตั้งตารอที่จะทำหน้าที่คุมทีมลงเล่นในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรก โดยมีโปรแกรมจะต้องพบกับอินเตอร์ มิลาน
• ประเดิมสนามในลีก: เขาได้ประเดิมคุมทีมเฟเยนูร์ดลงเล่นนัดแรกในเอเรดิวิซีลีกเนเธอร์แลนด์แล้ว โดยเปิดบ้านเสมอกับไนจ์เมเก้น 0-0 เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา

ข่าวสารอื่น ๆ:

• ความฝันที่ยังไม่เป็นจริง: เพิ่งเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ (30 ก.ค. 2568) ว่ามีความฝันอย่างหนึ่งในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่ไม่เป็นจริง นั่นคือการได้เล่นให้กับ บาร์เซโลนา สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาสเปน เขาเปิดเผยว่าบาร์เซโลนาเคยให้ความสนใจตนเองเมื่อปี 2016 ในช่วงที่เขากำลังค้าแข้งอยู่กับเฟเนร์บาห์เช แต่สุดท้ายดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น ทำให้เขารู้สึกเสียดายที่พลาดโอกาสครั้งนั้น
• โอกาสกลับอาร์เซนอล?:  ได้แสดงความคิดเห็นว่าเขาไม่คิดว่าจะได้กลับไปทำงานกับอาร์เซนอลอีกแล้ว เนื่องจากเขาเชื่อว่าประตูบานนั้นได้ปิดไปแล้ว จากการตัดสินใจย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนสำหรับแฟนๆ “เดอะ กันเนอร์ส” panacea-project

ฟาน เพอร์ซี กำลังเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะโค้ช และถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่น่าสนใจในเส้นทางอาชีพของเข